" น้ำเต้ากันไฟ เจ้าคุณสังวรา(ชุ่ม) วัดพลับ ธนบุรี "

อีกหนึ่งตำนาน เครื่องรางที่เป็นเพชรน้ำเอกแห่งฝั่งธนฯ สายวิชาของตักศิลาใหญ่วัดพลับ ที่มีคำพังเพย จากนักสะสม และผู้ศรัทธาเครื่องรางว่า " น้ำเต้า กันภัย กันไฟ เรียกทรัพย์ เจ้าคุณสังวราชุ่ม วัดพลับ " ที่โด่งดังมาตั้งแต่อดีตกาลร่วมร้อยกว่าปี

ด้วยอานุภาพความขลังที่โดดเด่นด้วย " กันภัย กันไฟ " อันด้วยท่านเจ้าคุณเสกด้วยมหาคาถา วัฏฏะกะปะริตตัง และอานุภาพด้าน " โชคลาภ " ที่จัดเป็นที่สุดเหมือนกัน เพราะท่านเสกให้เรียกลาภ และถือเคล็ดของชาวจีน ว่าน้ำเต้าจัดเป็นหนึ่งในสุดยอดของมงคลด้านโภคทรัพย์
สำหรับตัวจริงๆนั้นหายากมาก มีหมุนเวียนนับลูกได้ในวงการ มีค่านิยมที่สูงมาตลอด นักเล่นยุคเก่า หรือนักสะสมผู้ศรัทธาใครมีต่างก็หวงแหน

ทิ้งท้ายด้วยตำนานนั้นเล่าขานว่า ย้อนไปเมื่ออดีตกาล ท่านเจ้าคุณสังวรา(ชุ่ม) นั้นได้ออกธุดงค์ไปในทางป่าของเมืองกาญจนบุรี อันเป็นป่าที่มีภัยธรรมชาติ อย่างไฟป่า ที่เป็นสิ่งน่ากลัวอย่างมากต่อสรรพสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย แต่กลับมีศาลไม้แห่งหนึ่ง ที่สามารถรอดพ้นภัยนี้ได้อย่างเหลือเชื่อ ท่านเจ้าคุณจึงได้เข้าไปสำรวจ และได้พบเครื่องรางน้ำเต้า ที่สร้างและเสกโดย " หลวงพ่อแดง วัดเหนือ " ซึ่งท่านเป็นพระสงฆ์ผู้ชาญพระเวทย์ในยุคเก่าก่อน ที่เล่าขานว่าเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว อีกหนึ่งพระสงฆ์ผู้ชาญพระเวทย์ในตำนาน ดังนั้นท่านเจ้าคุณสังวรา(ชุ่ม) จึงได้นำสายวิชานี้มาจัดสร้างเป็นวัตถุมงคล เพื่อให้ลูกศิษย์ของท่าน นำไปบูชา จนเกิดประสบการณ์ ด้านคุ้มภัย กันไฟ และเรียกทรัพย์ ทำมาหากินคล่อง จนร่ำรวยมีเงินทองมากมาย สุดท้ายนั้น ว่ากันว่าให้ท่องพระคาถานี้เมื่อบูชาน้ำเต้าของท่าน จักเกิดอานุภาพเป็นทวี โดยมีคาถา ดังนี้

" นะกุมโบ โมกุมปะ อิติชัยยะ ชัยโย โสทายะ เตชะสติ วินาศอัคคี วา วิสา วา อัคคีชาลัง อุทกังปัตวา อะระหัง กะลาปิด อิทธิฤทธิ์พุทโธ นะโมพุทธายะ อิติปิโสภะคะวา นะมามิหัง " และว่านะโมสามจบ พร้อมตามด้วย " สมโณ โคตโม อิติปิโส ภะคะวา ตะยังจตุเภท ทุกขังอริยสังจัง สัตตโพชฌงคา ธัมมจักกัปวัตตะนะสุตตันติ วินะยะ อภิธัมมะโก จัตตาโร สติปัฏฐานา จัตตาโร สัมมัปฐานา ปัญญิณทรียานิ สะหะสัพพะสะหะคุรุอาจาริยะ "

ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน